พัฒนาการทางด้านร่างกายสำหรับเด็กปฐมวัย คือการเจริญเติบโตทางด้านต่าง ๆ ของร่างกาย และการพัฒนาทักษะทางกายภาพ ให้มีความสามารถในการเคลื่อนไหว การรักษาความสมดุลของร่างกาย และการควบคุมการทรงตัวได้ดี รวมถึงช่วยประสานสัมพันธ์ของร่างกาย ให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างทะมัดทะแมงอีกด้วย ซึ่งการพัฒนาการทางร่างกายแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1.การเจริญเติบโตของร่างกาย คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก และส่วนสูงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก และระบบข้อต่อต่าง ๆ จะมีความแข็งแรงมากขึ้น
2. การพัฒนาทักษะทางกายภาพ คือการพัฒนาการเคลื่อนไหวของเด็ก ๆ ที่สามารถควบคุมร่างกาย ให้ทำกิจกรรมที่ซับซ้อนและยากขึ้นได้อย่างคล่องแคล่ว โดยพัฒนาการของการเคลื่อนไหวต้องขึ้นอยู่กับ รูปร่างและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วย
ความสำคัญของการพัฒนาการด้านร่างกาย
เด็กในวัยอนุบาลธรรมชาติของเค้าจะเรียนรู้ผ่านการเคลื่อนไหว การทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยปกติในช่วงเช้าที่โรงเรียนจะมีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ทำการเคลื่อนไหวเข้าจังหวะประมาณ 20 นาที เพื่อทำให้ร่างกายของเด็กพร้อมที่จะเรียนหนังสือ ทำกิจกรรมในห้องเรียนได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นการเตรียมความพร้อมและพัฒนาร่างกายของเด็กให้เจริญเติบโตแข็งแรง จึงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันสำหรับเด็ก โดยผู้ปกครองและคุณครูอาจมีส่วนร่วมกับเด็ก ๆ ทำกิจกรรมทั้งในร่มและกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่บ้านหรือที่โรงเรียน เพื่อสังเกตการเคลื่อนไหวร่างกาย แล้วหาแนวทางส่งเสริมกิจกรรมที่เหมาะสมให้กับเด็ก ควรพิจารณาจากความพร้อมและความแข็งแรงของร่างกายของเด็กด้วย
องค์ประกอบหลักในการทำงานของร่างกาย
กล้ามเนื้อมัดใหญ่ คือกล้ามเนื้อบริเวณ แขน ขา ลำตัว รวมไปถึงความสัมพันธ์ของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายที่สามารถทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น การวิ่ง การเดิน การทรงตัว การออกกำลังกาย และการเล่นกีฬาต่าง ๆ เป็นต้น
กล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อบริเวณข้อมือจนถึงปลายนิ้วมือ ทำหน้าที่ในการกด นวด ขยำ หยิบ จับ สิ่งของต่าง ๆ เช่น การจับดินสอ การปั้น การเล่นเปียโน การดีดกีต้าร์ และกล้ามเนื้อบริเวณตาใช้ในการกลอกตาไปมา ช่วยให้ลูกตาเคลื่อนที่เห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้อีกด้วยค่ะ
การประสานงานของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อในการทำงาน คือระบบประสาทส่วนกลางทำหน้าที่ ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อแขน ขา ลำตัว และกล้ามเนื้อการหายใจ ทำให้ร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสัมพันธ์กัน เช่น การวาดภาพ การระบายสี การฝึกเขียน การล้างหน้าแปรงฟัน การผูกเชือกรองเท้า การยิงประตูฟุตบอล เป็นต้น
กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย
ผู้ปกครองและคุณครูสามารถส่งเสริมและพัฒนากล้ามเนื้อ โดยหากิจกรรมเล่นกับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทรงตัว การเดิน การวิ่ง การกระโดด การคลาน การนอน การเอียงตัว ฯลฯ เพราะจะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น และยังช่วยเสริมสร้างการประสานงานของ ระบบประสาทส่วนกลางกับกล้ามเนื้อ ส่งผลให้มือ เท้า ตา เคลื่อนไหว สัมพันธ์กัน ซึ่งการทำกิจกรรมไม่จำเป็นต้องทำที่บ้านเท่านั้น แต่ผู้ปกครองอาจจะพาเด็ก ๆ ไปทำกิจกรรมวันหยุด นอกบ้านได้ค่ะ เพราะการเรียนรู้นอกบ้านเปรียบเสมือนห้องเรียนที่กว้างใหญ่ ให้เค้าได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รอบตัว มากมาย จะช่วยให้เด็กรู้จักการสังเกต การปรับตัวอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และยังสร้างความทรงจำดี ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ สามารถแบ่งเป็น
กิจกรรมการเล่น คือกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ที่เล่นได้ทั้งกลางแจ้งและในร่ม รวมถึงกิจกรรม การเล่นกีฬา เช่น การปั่นจักรยาน การเล่นฮูลาฮูป การวิ่งแข่ง การเล่นปิงปอง การเล่นแบดมินตัน กิจกรรมการโยนรับลูกบอล กิจกรรมโยนบอลเข้าตะกร้า
กิจกรรมศิลปะและกิจกรรมการสร้างสรรค์ คือกิจกรรมที่ส่งเสริมการแสดงออกทางความคิด ที่เด็กได้สำรวจและจัดทำกับวัตถุโดยตรง เด็กสามารถออกแบบ ตกแต่ง กับชิ้นงานได้อย่างอิสระ
กิจกรรมการเข้าจังหวะ คือกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตามจังหวะเสียงเพลง เสียงดนตรี โดยมีอารมณ์และความรู้สึกร่วมกับการเคลื่อนไหวนั้น ๆ ด้วย เช่น กิจกรรมเต้นแอโรบิค กิจกรรมเก้าอี้ดนตรี กิจกรรมเล่นงูกินหาง กิจกรรมมอญซ่อนผ้า และกิจกรรมการเต้นประกอบเพลงต่าง ๆ เป็นต้น
อาหารเสริมพัฒนาการน้อง ๆวัยปฐมวัย
เด็กในวัยอนุบาลเริ่มตั้งแต่ 3 ขวบจนถึงอายุ 5 ขวบ เริ่มรับประทานอาหารได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้เริ่มเลือกรับประทานมากขึ้นจนอาจเป็นที่กังวลใจของผู้ปกครองหลายๆท่าน วันนี้ ก าหนดอาการจะมาแชร์เทคนิคการจัดอาหารให้เพียงพอและเหมาะสมตามวัยกัน ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจเรื่องความต้องการพลังงานและสารอาหารของเด็กวัยนี้กันค่ะ
พลังงาน เด็กในวัย 3-5 ขวบ มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยที่ 1200 kcal เพื่อให้เพียงพอต่อกิจวัตรประจำวันและการเจริญเติบโตของร่างกาย และต้องการโปรตีนเพียง 1.2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว กิโลกรัมต่อวัน หรือเฉลี่ย ประมาณ 25 กรัมต่อวัน ที่มาของพลังงานและโปรตีน หลักๆควรมาจากอาหาร 3 มื้อหลัก (ข้าวมื้อละ ครึ่ง – 1 ทัพพี เนื้อสัตว์หรือไข่ มื้อละ 1-2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันปรุงอาหารมื้อละ 1-2 ช้อนชา) และ เสริมด้วยนมกล่อง 1-2 กล่องต่อวัน แต่ในกรณีที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติม
Editor: twentyren
https://www.rakluke.com/child-development-all/kid-development/item/3-6-2.html
https://bsru.net/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B0-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD/ https://phattahawan.wordpress.com/2015/12/15/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99/